รู้ หรือ ไม่ ? อายุเกิน 35 จะเริ่มมีสายตายาว

อายุเกิน 35 จะเริ่มมีสายตายาว

--
คำถาม : อายุเกิน 35 จะเริ่มมีสายตายาว จริง หรือ ไม่
คำตอบ :ไม่จริง เนื่องจากสิ่งที่เรียกว่าสายตายาวตามอายุ(Presbyopia) เป็นเพียงภาวะที่ดวงตาไม่สามารถปรับโฟกัสเปลี่ยนจากมองไกลมาใกล้ได้จึงส่งผลให้ต้องใช้แว่นสายตายาวมาใช้ในการแก้ไขปัญหาตอนมองใกล้ ดังนั้น สายตายาวตามอายุ(Presbyopia) เป็นคนละภาวะกันกับ สายตายาว(Hyperopia)

--
คำถาม : ภาวะโฟกัสปรับระยะลดลง หรือ สายตายาวตามอายุ(Presbyopia) จะเริ่มเป็นเมื่อไหร่
คำตอบ : ความสามารถในการโฟกัสภาพ หรือ Accomodation ลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น(เริ่มช่วงอายุ 35) จนไม่สามารถมองภาพในระยะใกล้ได้ชัดเจน โดยปกติเมื่อเรา ‘ มองวัตถุที่อยู่ใกล้ๆ ’ ภาพที่เราเห็นจะไปตกที่บริเวณด้านหลังของจอตา ทำให้เราเห็นภาพนั้นเป็นภาพเบลอ ไม่คมชัด ร่างกายของเราจึงสร้างกลไกการเพ่ง หรือ Accomodation เพื่อดึงภาพให้มาตกบริเวณจอตาพอดี เราจึงสามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนPresbyopia เกิดจากการเสื่อมลงของเลนส์ตา และกล้ามเนื้อ ciliary muscle บริเวณดวงตา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำหน้าที่ในการ Accomodation เมื่อมีการเสื่อมลง การ Accomodation จึงทำได้น้อยลง ส่งผลทำให้ มีปัญหาการมองเห็นในระยะใกล้

--
คำถาม :ภาวะสายตายาวตามอายุ(Presbyopia) เป็นทุกคนไหม
คำตอบ : เป็นกันทุกคนแน่นอน แต่เมื่อเริ่มมีสายตายาวตามอายุแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าสายตาสั้นหรือยาวที่มีอยู่จะลดลงดังนั้นความเชื่อเรื่องถ้าอายุเยอะแล้วสายตาจะกลับคืนเป็นความคิดที่ผิดสายตาไม่ได้กลับคืนมีแต่จะมีเพิ่มขึ้น การที่อายุ 40 แล้วยังมองใกล้ได้ชัดอยู่สามารถสันนิฐานได้เลยว่าคุณมีสายตาสั้นมองไกลแน่นอน

--
คำถาม : แล้วจะแก้ไขได้ยังไงบ้าง
คำตอบ : แก้ด้วยแว่น 3 ชนิดนี้
1.เลนส์ชั้นเดียว (Single lens) หากใช้เลนส์ชั้นเดียวคนไข้จะใส่ได้เฉพาะเวลาอ่านหนังสือจะไม่สามารถมองไกลได้หากคนไข้มีสายตามองไกลไม่ว่าจะ สั้น ยาว หรือ เอียง ก็ต้องมีแว่นมองไกลอีกตัวสำหรับใส่เดิน จึงจำเป็นต้องพกแว่นไว้ 2 ตัวเสมอคอยสลับไปมาระหว่างใส่เดินกับมองใกล้
2.เลนส์ 2 ชั้น (KT หรือ FT lens) สามารถมองไกล และ มองใกล้ได้เท่านั้น แต่จะเลนส์ชนิดนี้จะมีการแบ่งชั้นเป็นถ้วยชัดเจนทำให้ใส่แล้วดูมีอายุ และในการใช้งานทำให้เจอภาพกระโดดเวลาเปลี่ยนระยะการมองทำให้เกิดอาการมึนหัว ปวดหัว ได้ง่ายอีกด้วย
3.เลนส์หลายชั้นไร้รอยต่อ (Progressive lens) สามารถมองระยะไกล ระยะกลาง และ ระยะใกล้ ได้โดยเป็นการไล่ระดับสายตาที่ตัวเลนส์ทำให้มองชัดได้ทั้งสามระยะและใช้งานสายตาได้ราวกับคนสายตาปกติได้เลย

--

ดังนั้นหากคุณอายุเข้าหรือเลย 35 แนะนำให้คุณเริ่มใช้เลนส์ Anti-Fatigue ที่จะมีค่าสายตายาวอ่อนๆทำให้ปรับตัวกับสายตายาวตามอายุได้ง่ายขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้เลนส์ Progressive ในอนาคตทั้งนี้หากใชเแว่น Progressive ตั้งแต่ยังมีสายตายาวน้อยๆจะทำให้เลนส์ Progressive ที่ใช้มีราคาไม่แพงกว่าคนที่มาเริ่มใช้ตอนสายตายาวตามอายุมีเยอะๆแล้วอีกด้วย